รีวิวภาพยนตร์ :The Assassin (2023)

Hong Kong Legends ได้สร้างค่ายเพลงในเครือชื่อ Premier Asia ซึ่งตั้งใจที่จะเน้นการผลิตจากส่วนอื่น ๆ ของเอเชียนอกเหนือจากชายฝั่งฮ่องกง หนึ่งในชื่อแรก (อาจจะเป็นชื่อแรกด้วยซ้ำ?) คือภาพยนตร์วูเซียเกาหลีปี 2000 เรื่อง Bichunmoo ซึ่งหายากแม้ในเวลาที่เขียนในปี 2023 แต่ยังคงชื่อเดิมสำหรับการเปิดตัวตะวันตก (แม้ว่าจะเป็นที่ยอมรับก็ตาม มันถูกตบด้วย ส่วนขยายของนักรบแห่งคุณธรรม) หลังจากเข้าโรงหนังเกาหลีมาสองสามปีแล้ว สำหรับตัวฉันเอง ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นบทนำเรื่องแรกของนักแสดงนำ ชินฮยอนจุน โดยรับบทเป็นนักดาบสาวผมยาวผู้มีความรักซึ่งมีสไตล์ศิลปะการต่อสู้ที่ถึงตายตามชื่อเรื่องฮยอนจุนเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงแล้วในปี 2000 โดยเคยเล่นบทตัวร้ายที่น่าจดจำในยุค 90 ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่ฟื้นคืนชีพไตรภาค The General’s Son และ CGI บล็อคบัสเตอร์เรื่อง The Gingko Bed ต้องขอบคุณ Premier Asia ที่ทำให้ผู้ชมชาวตะวันตกส่วนใหญ่มีโอกาสที่ภาพของเขาในฐานะนักดาบจาก Bichunmoo คือสิ่งที่ผุดขึ้นมาในหัวเมื่อเอ่ยชื่อของฮยอนจุน ฉันพูดถึงภูมิหลังนี้ เนื่องจากในปี 2023 ฮยอนจุนกลับมาที่หน้าจอในฐานะนักดาบผมยาวใน Night of the Assassin ซึ่งเพียงแค่เหลือบมองโปสเตอร์ก็อาจถูกเข้าใจผิดว่าเป็น Bichunmoo 2 ได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่ แต่ก็ยังเป็นอยู่ ยินดีหากมีเซอร์ไพรส์ที่ไม่คาดคิดที่จะเห็นฮยอนจุนกลับมาเล่นฟันดาบในอีก 23 ปีต่อมา

ภูมิทัศน์ของภาพยนตร์ในเกาหลีได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในช่วงเวลานั้นเช่นกัน ในปี 2000 Kim Yeong-joon ผู้กำกับของ Bichunmoo ได้ดึง Ma Yuk Sing นักออกแบบท่าเต้นชาวฮ่องกงมากำกับฉากแอคชั่น ทำให้พวกเขาใช้ลวดเชื่อมที่กระตุ้นสุนทรียภาพแห่งวูเซียคลื่นลูกใหม่ ซึ่งน่าจะมาจากความนิยมของภาพยนตร์ฮ่องกงในเกาหลีในช่วงปี 1990 อย่างไรก็ตาม ในปี 2023 ความเหนือชั้นของยุค 90 ได้ถูกแทนที่ด้วยแนวทางที่มีเหตุผลมากขึ้น ลักษณะดังกล่าวสามารถพบเห็นได้ในภาพยนตร์โปรดักชั่นล่าสุดอย่าง The Swordsman และ Revenger การเปลี่ยนแปลงวิธีการน่าจะเป็นข้อได้เปรียบสำหรับฮยอนจุน ซึ่งตอนนี้อายุ 50 และ 20 ปีไม่ได้ฝึกฝน อาจจะไม่อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดที่จะวางสายและเหวี่ยงไปทั่วหน้าจอในเก้าอี้ผู้กำกับของ Night of the Assassin คือกวัก จอง-ด็อก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่รู้จักจากการเขียนบทและงานดัดแปลงเรื่อง A Hard Day และ Ashfall และยังเป็นผู้รับผิดชอบสคริปต์ที่นี่ด้วย ผลงานการกำกับเรื่องเดียวก่อนหน้านี้ของจองด็อกคือเมื่อ 16 ปีก่อน เมื่อเขากำกับภาคต่อเรื่อง Good Wife สำหรับซีรีส์ภาพยนตร์โทรทัศน์แนวอีโรติกเรื่อง Temptation of Eve ย้อนกลับไปในปี 2550 การที่เขามารับหน้าที่กำกับที่นี่จะยังคงเป็นหนึ่งในนั้น ความลึกลับที่ปรากฏขึ้นเป็นครั้งคราวเมื่อวิจารณ์ภาพยนตร์เกาหลี อย่างไรก็ตามเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย เราจะบอกว่าการเปลี่ยนจากภาพยนตร์โทรทัศน์ที่เร้าอารมณ์ไปสู่ภาพยนตร์แนวนักฆ่าในยุคโชซอนที่มีช่องว่าง 16 ปีนั้นเป็นความก้าวหน้าตามธรรมชาติ

บอกเล่าผ่านการเล่าเรื่อง โครงเรื่องเห็นว่าฮยอนจุนรับบทเป็น “มือสังหารที่เก่งที่สุดของโชซอน” โดยเล่นเป็นประเภทมืดมนและครุ่นคิดที่พูดแต่เสียงต่ำและประโยคมักจบลงด้วยเสียงกระซิบ พร้อมฉากเปิดการลอบสังหารที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่โหดเหี้ยมของเขา และปฏิเสธที่จะแกว่งจากการตี ชีวิตของเขาที่ต้องพูดประโยคสั้น ๆ เงียบ ๆ และจังหวะดาบที่อันตรายถึงชีวิตของเขาถูกขัดจังหวะแม้ว่าเขาจะคุกเข่าลงและเอามือกุมหน้าอกหลังจากทำงานเสร็จ ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาหัวใจที่เขาพยายามใช้ชีวิตโดยไม่รู้ตัวมาระยะหนึ่ง การไปพบแพทย์ที่ไว้ใจได้เผยให้เห็นว่าสมุนไพรที่มีข่าวลือว่ามีอยู่จริงที่เรียกว่า มะวังโช สามารถรักษาอาการของเขาได้ แต่เมื่อพิจารณาว่าไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่ามันจริงหรือไม่ วิธีที่ดีที่สุดที่เขาทำได้คือหยุดฝึกศิลปะการต่อสู้และเซ็กส์ (เพื่อให้). รีวิวซีรี่ย์เกาหลี